ฟ้องแล้ว…’เอกราช ช่างเหลา’ นัดไต่สวน 3 สิงหาฯยักยอก 431 ล้าน /ปลอมบุ๊กแบงก์/รับของโจร

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยื่นฟ้อง “เอกราช ช่างเหลา” พร้อมพวก 4 คน ฐานยักยอกทรัพย์เป็นเงิน 431 ล้าน ปลอมแปลงเอกสาร พร้อมพ่วงข้อหารับของโจรอดีตเลขานุการฯ ที่รับโอนเงินจากบัญชี รวมเป็นจำเลยทั้งหมด 5 คน นัดไตรสวนมูลฟ้องนัดแรก 3 สิงหาฯ นี้ “ดร.อนุศาสตร์” ยันทำเพื่อสมาชิก ย้ำนายทะเบียนไม่ได้สั่งคืนโบนัสให้รอฟังผลอุทธรณ์

เมื่อ 11.30 น.วันที่ 17 เมษายน 2563 นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้มอบอำนาจให้ทนายความทำการยื่นฟ้องนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น พร้อมพวกประกอบด้วย นายนพรัตน์ สร้างนานอก นายสมศักดิ์ โคตรรวงษ์ และนายนิวัฒร นิราศสูงเนิน ให้ดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร (สมุดธนาคาร) รวมทั้ง น.ส.วราภรณ์ พันธ์สาร อดีตเลขานุการฯนายเอกราช ซึ่งเป็นผู้รับโอนเงินจากบัญชีของนายเอกราช ในข้อหารับของโจร ต่อศาลจังหวัดขอนแก่น

ทั้งนี้ นายเอกราช พร้อมพวก 3 คน ที่ตกเป็นจำเลยเป็นผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายเงินได้ยักยอกเงินออกจากบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ ประเภทเงินฝากประจำ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง (เทสโก้โลตัส ฟอร์จูน กรุงเทพฯ) เลขบัญชี 144-101- 918-9 ตั้งแต่ พ.ศ.2554 เป็นเงินจำนวน 396 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยจนถึง ปี 2562 เป็นเงินจำนวน 431 ล้านบาท (สี่ร้อยสามสิบเอ็ดล้านบาทถ้วน)และข้อหาปลอมแปลงเอกสาร (สมุดบัญชีธนาคาร)

ส่วนน.ส.วราภรณ์ พันธ์สาร จำเลยที่ 5 เป็นอดีตเลขานุการและคนใกล้ชิดของนายเอกราช ที่ได้รับโอนเงินเข้าบัญชี โดยเป็นการยื่นฟ้องผ่านระบบอิเลคโทรนิค เป็นความอาญาคดีดำเลขที่ 290/2563 และศาลนัดให้มีการไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 น.

ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการสหกรณ์ฯได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการมอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีกับนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด พร้อมพวก 4 คน เมื่อตอนสายของวันที่ 17 เมษายน 2563 โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรกวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ซึ่งจะเป็นการดำเนินการคู่ไปพร้อมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นฯได้มีการไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

“กระบวนการสอบสวนของตำรวจมีขั้นตอนและรายละเอียดค่อนข้างมาก ทำให้ใช้เวลานาน ขณะนี้เวลาผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว คณะกรรมการสหกรณ์เห็นว่า น่าที่จะได้ยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรง คู่ขนานพร้อมกันไปด้วยเพื่อให้สมาชิกมีความมั่นใจ”ดร.อนุศาสตร์กล่าวและว่า

สิ่งที่ตนดำเนินการทั้งหมดเป็นการทำเพื่อประโยชน์สมาชิกสหกรณ์ฯ โดยต้องการให้นายเอกราชได้นำเงินมาคืนให้สหกรณ์ทั้งหมด ส่วนการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอายุความแต่อย่างใด

นายอนุศาสตร์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่นายทะเบียนสหกรณ์ได้สั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่สหกรณ์เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และมติของคณะกรรมการสหกรณ์ฯที่เกี่ยวกับเรื่องเงินปันเฉลี่ยคืนนั้น ตนได้ทำเรื่องอุทธรณ์ไปที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พร้อมกับเสนอแผนการดำเนินการกันหนี้เผื่อจะสูญ เป็นเวลา 4 ปี ไปแล้วตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมีนาคม ซึ่งตามหลักการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จะใช้เวลาพิจารณา 60 วัน ซึ่งคาดว่าเดือนพฤษภาคม ก็จะได้ทราบผลการพิจารณา

“เรากำลังรอคำตอบอยู่ ผมยืนยันว่านายทะเบียนยังไม่ได้สั่งให้คืนโบนัส เพียงต้องการให้สหกรณ์ใช้ยอดกำไรสุทธิในการจัดสรรกำไร ตามที่ผู้ตรวจสอบบัญชีให้มีการตั้งค่าหนี้เผื่อจะสูญครอบคลุมตามจำนวนทั้งหมด แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯมีมติไม่เห็นด้วย”นายอนุศาสตร์กล่าวและว่า

นายเอกราช ช่างเหลา ได้มาเซ็นยอมรับสภาหนี้และได้นำเอาหลักทรัพย์มาค้ำประกันเพียง 169 ล้านบาท ขาดอยู่จำนวน 262ล้านบาท ทางผู้ตรวจบัญชีต้องการให้สหกรณ์ตั้งค่าหนี้เผื่อจะสูญเต็มจำนวน แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯได้ขอผ่อนปรนและเสนอแผนการตั้งค่าหนี้เผื่อจะสูญปีที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ปีที่ 2 จำนวน 50 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 80 ล้าน ปีที่ 4 จำนวน 100 ล้านบาท

“ปี 63 เราจึงตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญไว้ 30 ล้านบาท จึงคำนวณตัวเลขมีกำไรอยู่ที่ 1,126 ล้าน แต่ผู้สอบบัญชีให้ตั้งเต็ม 262 ล้านบาท กำไรจึงจะเหลืออยู่ที่ 894 ล้านบาท ซึ่งนายทะเบียนเคยแจ้งก่อนหน้านี้แล้ว แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯมีมติไม่ยอมโดยให้ที่ประชุมใหญ่ตัดสิน”ดร.อนุศาสตร์กล่าวและว่า

เมื่อชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ไปร้องนายทะเบียนสหกรณ์ก็ต้องดำเนินการเพราะไม่เช่นนั้น อาจจะถูกร้องมาตรา 157 ซึ่งไม่ใช่การสั่งคืนโบนัส และคณะกรรมการสหกรณ์ฯได้มีแผนเตรียมการไว้หมดแล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสมาชิก ในการปันผลเฉลี่ยคืน

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นและคณะได้มีการประสานทนายความเพื่อเตรียมที่จะยื่นฟ้องต่อศาลด้วยเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่า การดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนใช้เวลาไปนานกว่า 4 เดือน นับแต่ที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในที่สุด ดร.อนุศาสตร์สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นฯก็ได้รับความเห็นชอบให้มอบหมายให้ทนายความให้ทำการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่นก่อนที่ชมรมฯจะได้ดำเนินการ โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าชมรมสมาชิกฯจะได้ทำการยื่นฟ้องต่อศาลคู่ขนาดไปด้วย